สุราษฎร์ธานี เมืองคนดี เที่ยวได้ทั้งปี Surat Thani – City Of Good People "a Year-Round Visting Destination"
ตั้งอยู่ ณ ตำบลตลาด อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี สร้างเมื่อ พ.ศ. 2439 โดยหลวงพ่อพัฒน์ นารโท ผูกพันธสีมา ในปี พ.ศ. 2444 ประกาศขึ้นทะเบียนวันที่ 21 ธันวาคม 2544 วัดพัฒนารามมีโบราณสถานที่สำคัญ ได้แก่ พระอุโบสถ เป็นอาคารก้อนอิฐถือปูน ภายในพระอุโบสถประดิษฐาน พระพุทธรูปทรงเครื่องปางมารวิชัย ขนาบข้างด้วยพระพุทธรูปทรงเครื่องปางอุ้มบาตรและปางห้ามสมุทรด้านละ1 องค์ เหนือบานหน้าต่างเขียนภาพจิตรกรรมตามฝาผนังเรื่องพุทธประวัติ ด้านนอกอุโบสถมีซุ้มเสมา 8 ซุ้ม อุโบสถหลังนี้สร้างขึ้นในรศ.166(พุทธศักราช 2440) พุทธศักราช 2440 ท่านเจ้าอธิการพัฒน์ นารทะ ได้เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาก่อสร้างพระอารามแห่งนี้เมื่อปีจอ สัมฤทธิศก เดือน๖ เดิมวัดพัฒนารามเป็นที่ถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยาของทางราชการตั้งแต่วัดเริ่มสร้างเสร็จมาจนถึง พ.ศ.2475 ภายหลังเปลี่ยนแปลงการปกครองจึงได้ยกเลิก
การเดินทาง
การเดินทางโดย เครื่องบิน รถไฟ รถประจำทาง หรือรถส่วนตัว เส้นทางสู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แล้วเดินทางต่อสู่อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี เลขที่ 652 ถนนหน้าเมือง ตำบลตลาด อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
สิ่งที่น่าสนใจ
จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ วัดพัฒนารามเป็นอารามหลวง เป็นแหล่งความเชื่อและความศรัทธาที่ประสมประสานระหว่างวัฒนธรรม จารีตประเพณี จิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถ บันทึกเรื่องราวขนบธรรมเนียมประเพณีเชื่อมโยงกับศาสนาเป็นคติธรรมคำสอนที่น่าสนใจรวม 36 ภาพ ลักษณะพิเศษของอุโบสถ คือพื้นหินอ่อนและเสาไม้กลมทั้งต้น 26 ต้น การก่อสร้างแบบเอกลักษณ์เรือนไทยภาคใต้ ใช้ไม้หลุมพอและไม้ตะเคียน ไม้ธรรมชาติในท้องถิ่น
ด้านหน้ามีรูปปั้นทหารแต่งกายสากลนิยม สวมหมวกทรงสูงแบบมหาดเล็ก 1 คน รูปปั้นยักษ์ 2 ตน และยามโพกผ้า 1 คน เป็นสัญลักษณ์วิถีชีวิตและการประกอบอาชีพในจังหวัดสุราษฎร์ธานีในอดีต
ศาลาปฐมเจ้าอาวาสวัดพัฒนาราม
หลวงพ่อพัฒน์ นารโท ผู้บุกเบิกสร้างวัดที่รู้จักเรียกขานกันติดปากว่า ” วัดใหม่ ” หลวงพ่อพัฒน์เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องกสิณ โดยเฉพาะเตโชกสิณและปฐวีกสิณ และเป็นผู้ทรงคุณพิเศษทางการแพทย์แผนไทย เป็นพระภิกษุผู้ตระหนักรู้เท่าทันเหตุการณ์ปัจจัยต่างๆ เสมือนหนึ่งเสาหลักที่พักใจ เป็นที่พึ่งของประชาชน คำพูดของท่านเป็นวาจาสิทธ์ ท่านสามารถบอกผู้ใกล้ชิดเป็นการล่วงหน้าถึงวันมรณภาพ เมื่อมรณภาพแล้วสรีระของท่านไม่เน่าเปื่อย แห้งแกร่งคล้ายหิน กระทั่งทุกวันนี้มีผู้เดินทางมากราบไหว้ สักการะและแก้บนกันอยู่เสมอ
เวลาที่เหมาะสม
8.00 น.-16.00 น.
ทำบุญไหว้พระปฏิบัติธรรม